
BABY FAT CLEAR
สลายไขมันเฉพาะจุด ลดแก้ม ลดเหนียงใต้คาง ปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวเล็ก ไม่เจ็บ ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผล โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม มีความปลอดภัย ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
เป็นวิธีการสลายไขมันสะสมส่วนเกินเฉพาะจุด นิยมฉีดเพื่อสลายไขมันที่สะสมอยู่บริเวณพวงแก้ม เหนียงใต้คาง จึงช่วยปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวเล็กขึ้นได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เทคนิคการฉีดตัวยาสูตรเฉพาะเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิว (Meso Lipolysis) จึงทำให้บริเวณที่ฉีดสวยงามได้รูปตามที่ต้องการ ไม่มีอาการปวด ไม่เจ็บ ไม่มีบาดแผล และหลังการฉีดไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังรับบริการทันที มีความปลอดภัย ด้วยเวชภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
(ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล)
1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสภาพผิวก่อนทำการรักษา
2. ปกติสามารถฉีดโดยประคบเย็นไม่ต้องใช้ยาชา แต่บางกรณีอาจใช้ยาชาชนิดครีมทาบริเวณที่ต้องการรักษาก่อนประมาณ 30-45 นาที
3. แพทย์จะฉีดปริมาณ 0.5-1 cc ในบริเวณที่ต้องการรักษาด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก และฉีดลึกลงไประมาณ 5-10 มิลลิเมตร แต่ละจุดที่ฉีดห่างกันประมาณ 2 เซ็นติเมตร โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา
Meso Lipolysis เป็นเทคนิคการฉีดสารที่ประกอบไปด้วย Active Ingredient หลายชนิด ที่มีผลกระตุ้นกระบวนการสลายไขมันและลดการบวมคั่งของของเหลวในบริเวณที่ต้องการรักษา รวมทั้งมีผลกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน เพื่อช่วยเรื่องการกระชับผิว ฉีดเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังที่มีการสะสมของไขมัน เป็นวิธีที่ถือว่ามีความปลอดภัยมากเพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ สลายออกจากร่างกายได้ดี จึงไม่มีอาการแพ้และไม่สะสมตกค้างในร่างกาย ด้วยสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมในชั้นไขมันและทำให้เกิดการขัดขวางการสะสมของไขมันใหม่ พร้อมกระตุ้นเร่งการเผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมอยู่ให้แตกกระจายตัวและสลายเป็นไขมันเหลว แล้วถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ (ส่วนมาก)และทางอุจจาระ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต, ระบบต่อมน้ำเหลืองและกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ทำให้บริเวณผิวที่ทำการรักษาและผิวโดยรอบมีความแข็งแรงและกระชับขึ้น
ปัจจุบันได้มีการพัฒนาตัวยาสำหรับฉีดสลายไขมันให้มีความสะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น ได้ผลเร็วมากขึ้นและลดผลข้างเคียงให้น้อยลง เช่น การฟกช้ำหลังฉีด อาการปวดหรือบวมจากยา ใช้เวลาในการรักษาน้อยลง ให้ผลที่รวดเร็วมากขึ้น เจ็บน้อยลง ไม่ปวด ไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่นิยมอย่างมากเพื่อใช้ในการรักษาไขมันสะสมส่วนเกินเฉพาะจุด โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ดังนี้
1. ลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก ควบคู่กับการฉีดหน้าเรียว
2. ลดไขมันที่คาง (เหนียงใต้คาง)
3. ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา
4. ลดไขมันที่หน้าท้อง บั้นเอว
การรักษาใช้เวลาเพียง 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา และอาจต้องมาพบแพทย์ตามกำหนดนัดหมายเพื่อฉีดซ้ำโดยเว้นระยะห่าง 5-7 วัน จำนวนครั้งของการรักษาขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสม โดยเฉลี่ย 3-5 ครั้ง
ผู้ที่มีไขมันสะสมส่วนเกินเฉพาะจุดที่แก้ม, คาง (เหนียงใต้คาง), ต้นแขน, ต้นขา, หน้าท้องและบั้นเอว เป็นต้น
1. สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
2. คนไข้โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
3. คนไข้ที่มีประวัติโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เช่น เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
4. คนไข้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง
5. คนไข้ที่มีประวัติโรคหัวใจ และทำการรักษาด้วยยาหลายขนาน
ในขณะที่แพทย์ทำการรักษาคนไข้จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยคล้าย ๆ มดกัด และหลังการรักษาในบางรายอาจมีรอยเข็มเป็นจุดเล็ก ๆ ในบางจุดและจะค่อย ๆ จางหายไปเองภายใน 1 ชั่วโมง
1. ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพราะไขมันเหลวที่โดนสลายด้วยการฉีดสลายไขมันจะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการดื่มน้ำมากๆ จะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกจากร่างกายได้มากขึ้น
2. ช่วงที่เว้นการฉีดยาสลายไขมัน แนะนำให้ทำ RF เพื่อช่วยรีดไขมันออกจากร่างกายเร็วขึ้น และทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้มากขึ้น ลดการหย่อนคล้อยหลังฉีด
3. หลังฉีดอาจจะมีอาการช้ำเล็กน้อยในบางจุด เนื่องจากรอยเข็มฉีดยา แต่จะหายไปเองภายใน 5-7 วัน
4. หลังทำ 1-3 วัน ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า และการทำทรีตเมนต์หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์
5. หลังทำควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
6. ควรเดินออกกำลังกายเบาๆ หลังทำ เช่น การเดินเร็ว โยคะ แอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับและรีดไขมันให้ออกจากร่างกายเร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมันใหม่อีกด้วย
7. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อควบคุมน้ำหนัก และไขมันส่วนเกินไม่ให้กลับมาสะสมได้อีก เพราะการสลายไขมันด้วยการฉีดยาไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และมีวินัยในการควบคุมน้ำหนักให้มากขึ้น
หลังจากฉีดสารสลายไขมันเข้าที่บริเวณชั้นไขมันใต้ผิวหนังแล้ว โดยธรรมชาติ ไขมันจะเริ่มหดตัว หรือเริ่มลดจำนวนเซลล์ไขมันลงประมาณ 10-20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และไขมันจะสลายตัวประมาณ 50-80% เมื่อทำครบคอร์ส ในบางรายอาจทำให้ขนาดบริเวณที่ทำการรักษาในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จะดูใหญ่กว่าที่ต้องการได้ เนื่องจากคนไข้บางรายมีการแตกตัวของไขมันได้ช้า แต่หลังจากนั้นเมื่อตัวยาทำการสลายไขมันให้เริ่มแตกตัวเป็นไขมันเหลวได้แล้ว บริเวณที่ทำการรักษาจะค่อยๆ ยุบตัวเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ขนาดและสัดส่วนที่พอดีสวยงามขึ้นตามต้องการ
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ในคนไข้บางคน หลังจากฉีดลดไขมันเฉพาะที่แล้ว โดยเฉพาะที่คาง หน้าท้องหรือท้องแขน เมื่อไขมันลดได้เกือบหมดแล้ว อาจมีอาการผิวหนังหย่อนคล้อย ดังนั้นการทำ RF + การฉีด Meso Firming จะช่วยทำให้การหย่อนคล้อยกระชับขึ้นได้เร็วขึ้น
การรักษามีความปลอดภัย ไม่มีอันตราย โดยการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ควรรักษาร่วมกับนวัตกรรมการแพทย์อื่น ๆ โดยคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น